” เมื่อสิ้นบุญฉันแล้ว ท่านสาครจะแทนฉันได้ ” คำกล่าวนี้ หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ พระเถระชื่อดังผู้ล่วงลับ ของจังหวัดระยอง ได้กล่าวต่อหน้าศิษยานุศรหลายคน เมื่อวันที่ ๑๖ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๑๘ ซึ่งตรงกับวันที่ท่านมีอายุครบ ๘ รอบพอดี จึงทำให้เชื่อแน่ว่า ท่านสาครที่หลวงปู่ทิมกล่าวถึงนี้ ย่อมมีวิชาอาคมขลัง สามารถสืบทอดทางสายวิทยาคมแทนท่านได้ พระครูมนูญธรรมวัตร หรือ หลวงพ่อสาคร ศิษย์เอกผู้สืบทอดพุทธาคมจาก หลวงปู่ทิม อิสริโก
หลวงพ่อสาคร เป็นผู้ฝักใฝ่ในด้านเวทย์มนต์คาถาอาคมและวิชาแพทย์แผนโบราณมาตั้งแต่เด็กๆ นามเดิมว่า สาคร ไพสาลี เกิดในตระกูลชาวไร่-ชาวนา เมื่อวันอังคาร แรม ๙ ค่ำ เดือน ๓ ตรงกับ วันที่ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๔๘๑ ซึ่งตรงตามคติโบราณที่ว่าบุคคลนั้นจะมีความพิเศษอยู่ในตัว หากถือปฏิบัติก็จะพบกับความสำเร็จเจริญยิ่งๆ ขึ้นไป หากร้ายก็จะร้ายอย่างหาที่เปรียบไม่ได้และบุคคลที่เกิดในราศีนี้จิตฝักใฝ่่ด้านไสยศาสตร์เวทย์มนต์คาถา
โยมบิดา ชื่อ นายกุ โยมมารดา ชื่อ นางนิด หลวงพ่อสาคร เกิดที่บ้านท้ายทุ่ง หมู่ ๒ ต.หนองกรับ อ.บ้านค่าย (บ้านท้ายทุ่งแห่งนี้เป็นสถานที่เดียวกับบ้านเกิดของหลวงปู่ทิม วัดระหารไร่) หลวงพ่อสาคร มีพี่น้องทั้งหมด ๒ คน คือ นางอยู่ ไพสาลี และ หลวงพ่อสาคร
หลวงพ่อสาคร ได้เข้ารับการศึกษาเบื้องต้นในชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ เมื่ออายุ ๕ ปี ที่โรงเรียนวัดหนองกรับ จนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๐ ได้ออกมาช่วยโยมบิดา- มารดาประกอบอาชีพทำนาและเมื่อมีเวลาว่างก็จะออกเดินทางไปบ้านละหารไร่ เพื่อศึกษาวิชาไสยศาสตร์กับโยมหล่อและโยมทัต ซึ่งทั้งสองถือว่าเป็นผู้เรืองวิชาอาคมสมัยนั้น และเข้าปฏิบัติหลวงปู่ทิมอยู่เป็นนิจซึ่งนับว่าเป็นศิษย์รุ่นเยาว์ที่หลวงปู่ให้ความเมตตาเรียกใช้อยู่เสมอ ด้วยนิสัยและความสนใจด้านไสยศาตร์มาแต่เด็กและโตขึ้นจึงเป็นคนหนุ่มที่มีวิชาอาคมติดตัวแต่ก็ได้ใช้วิชาที่ร่ำเรียนมาไปทำร้ายใคร กลับมีแต่ช่วยเหลือเพื่อนๆรุ่นเดียวกันมาตลอด
อุปสมบท เมื่ออายุครบ ๒๐ ปี โยมมารดาและญาติพี่น้องจึงได้ร่วมกันจัดพิธีอุปสมบทให้เป็นภิกษุที่วัดหนองกรับ เมือวันพุธที่ ๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๐๑ โดยมีพระครูจันทโรทัย (หลวงพ่อดิ่ง) เป็นพระอุปัชฌายะเป็นกรรมวาจาจารย์และพระอธิการเคียง วัดไผ่ล้อมเป็นอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า มนูญโญ เมื่ออุปสมบทแล้วได้เดินทางไปจำพรรษาที่วัดละหารไร่ และได้ฝากตัวเป็รศิษย์หลวงปู่ทิม เพื่อศึกษาพระธรรมวินัยและพุทธาคมจากหลวงปู่ทิมวัดละหารไร่ อย่างจริงจัง จึงได้รับการถ่ายทอดวิชาอาคมต่างๆจากหลวงปู่ทิม จนหมดสิ้น โดยมิได้ปิดบังแต่อย่างใด เรียกได้ว่า เรียนได้กระจ่างชัดรู้จริง สามารถปฏิบัติได้เมื่อมีความเชียวชาญเมื่อมีความเชี่ยวชาญในพระคาถาต่างๆ ที่เรียนแล้วด้วยใจรักในด้านนี้ จึงได้เสาะแสวงหาศึกษาวิชาอาคมจาก หลวงพ่อเพ่ง สาสโน วัดละหารใหญ่ ซึ่ง หลวงพ่อเพ่ง รูปนี้เดิมเป็นมหาดเล็กในเสร็จเตี่ย กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ฯ จึงได้ศึกษาวิชาอาคมจาก หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า มีวิชาด้านคงกระพันเป็นเยี่ยมเขียนอักขระลงบนแผ่น ตะกั่วเพียงตัวเดียวให้คนทดลองยิงก็ยิงไม่ออก เมื่อหลวงพ่อสาคร ได้ศึกษาวิชาอาคมจากหลวงพ่อเพ่งเป็นอย่างดีแล้วก็ได้รับคำแนะนำจากหลวงปู่ทิม ให้ไปศึกษาวิชาจาก หลวงปู่หิน วัดหนองสนม ซึ่งหลวงพ่อสาครได้รับความเมตตาจากหลวงปู่ทิมถ่ายทอดวิชาให้เป็นอย่างดี หลังจากศึกษาวิชาอาคมจากหลวงปู่หินแล้ว หลวงพ่อสาครก็เดินทางไปศึกษาวิชากับหลวงปูโสม วัดบ้านช่อง อ.พานทอง จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นพระที่มีวิชาอาคมแก้กล้าอีกองค์หนึ่งของภาคตะวันออก
หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ ได้รับการถ่ายทอดวิชาอาคมจากบรรดาเกจิอาจารย์ต่างๆ อีกหลายองค์ อาทิ
พ.ศ.๒๕๐๓ ได้เดินทางไปศึกษากับอาจารย์เชียงคำ ที่เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า
พ.ศ.๒๕๐๖ ศึกษากับอาจารย์สิน วัดนาวัง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
พ.ศ.๒๕๑๘ เดินทางไปศึกษากับอาจารย์สุพจน์ ที่ประเทศเขมร
พ.ศ.๒๕๒๓ ศึกษากับพระอาจารย์สุมล คำเสียง ที่จังหวัดศรีษะเกษ
พ.ศ.๒๕๒๕ ศึกษากับหลวงพ่อบุญเย็น วัดแจ้งนอก จ.นครราชสีมา
พ.ศ.๒๕๒๖ ศึกษากับหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา
พ.ศ.๒๕๒๗ ศึกษากับหลวงพ่ออาคม วัดดาวนิมิตร จ.เพชรบูรณ์
พ.ศ.๒๕๒๘ ศึกษากับหลวงพ่อบึม วัดปราสาทกิน จ.ปราจีนบุรี
ฯลฯ